ทั้งนี้ นางสาวภัสธิร์ญา ภัคสิรีธร (เฟิร์น) หลานสาวสมเกียรติ ศรีจันทร์ ผู้เสียชีวิต ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนเสียชีวิต ได้อธิบายถึงพฤติกรรมของวัยรุ่นทั้ง 6 คน ซึ่งได้มีการวางแผนเตรียมการมาก่อนว่า
“พอบุกมาที่บ้าน มีคนนึงถือมีดสั้นมา แล้วน้าเกียรติวิ่งไปเอามีดหลังร้านมาไล่ วิ่งไปทางขวา 2 คน ทางซ้าย 2 คน พอน้าเกียรติวิ่งไล่ไปทางซ้าย มีคนนึง ทิ้งมีดลงหลังรถ แคมรี่ แล้วไอคนทางขวาตะโกนบอกจะไปเอาปืนที่รถมอไซ น้าเกียแรติเลยไล่ทางขวาต่อ 2 คนทางซ้ายหยุดแล้วนะ เลยไล่ทางขวา พอไล่เสร็จก็เดินกลับมา หา 2 คนทางซ้ายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน คุยปรับความเข้าใจกัน กอดคอกัน เสร็จ น้าเกียรติก็เอามีดไปเก็บ แต่น้องที่วิ่งไปทางขวา โทรตามเรียกพวกมา แล้วเมธัสก็โทรเรียกตำรวจ เฟินคุยกับน้องทางขวา 2 คนว่าใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆคุยกัน น้องคนที่โทรตอบกลับมาว่า เย็นอยู่แล้ว แต่พี่คงไม่ยอม หลังจากโทรสักพัก ในขณะที่น้าเกียรติก็เก็บมีดแล้ว อีกสองคนที่เพื่อนโทรตามก็มาพร้อมมีดอาวุธปลายแหลม กับมีดสปาต้าหัวตัด ยาวประมาณ 1 ช่วงแขน เดินตรงมาที่เมธัสกับพยานอีกคน พร้อมเอามีดชี้หน้าจะฟันหัว แล้วพูดว่า มึงใช่มั้ย น้องคนที่โทรบอกไม่ใช่ แล้วชี้ไปที่น้าเกียรติแล้วบอกว่า อยู่นู่น น้าเกียรติเห็นพวกนั้นเอามีดมา และจะฟันเมกับพยานอีกคน แล้วจะตามไปฟันน้าเกียรติต่อ จึงวิ่งเข้าไปหยิบมามีดออกมาอีกครั้ง เพื่อป้องกันตัว แต่…
ทางตำรวจบอกว่า ฝั่งผู้ต้องหากำลังถูกทำร้าย เลยโทรเรียกพี่ให้มาช่วย ในขณะที่พี่ของผู้โทรมาถึง ก็ยังมีการทำร้ายกันอยู่ อันนี้มันขัดแย้งกับคลิปวิดีโอ ที่ผู้ตายนำมีดไปเก็บแล้ว และทางผู้ที่โทรเรียกพวกมา ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสักคน ไม่มีการทะเลาะหรือต่อสู้กันแล้วด้วยซ้ำ แต่มาเริ่มอีกทีตอนที่ พี่ของผู้ที่โทรไป 2 คน บุกมาอีกครั้ง พร้อมมีด แล้วถ้าบอกว่าการที่น้าเกียรติเดินไปหยิบมามีดมาอีกครั้งเพื่อปกป้องตัวเองหรือกำลังเห็นเมกับพยานตกอยู่ในอันตราย คือการสมัครใจวิวาท งั้นการที่ผู้ต้องหาถือมีดมา พร้อมจะฆ่าคนอื่นให้ตายได้ โดยมีระยะเวลาการโทรเรียกการเตรียมอาวุธมา ก็ต้องเป็นการไตร่ตรองด้วยหรือเปล่า”
loading...